ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรามักได้ยินเสียงบ่นจากหัวหน้าหรือผู้บริหารหลายคนว่า “Gen Z ทำงานด้วยยาก” เหตุผลที่ได้ยินบ่อยคือ เด็กยุคนี้ไม่ค่อยทนกดดัน ชอบเปลี่ยนงานไว ไม่ค่อยฟังคำสั่ง และมี “ความคิด” ที่ไม่เหมือนรุ่นก่อน ๆ แต่หากมองให้ลึกกว่านั้น จะเห็นว่านี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องทัศนคติอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมที่พวกเขาเติบโตขึ้นมาด้วย
ทำไม Gen Z ถึงถูกมองว่าทำงานด้วยยาก
หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้หลายคนมองว่า Gen Z ทำงานด้วยยาก คือ Gen Z เป็น Gen ที่โตมาในโลกที่ทุกอย่างรวดเร็วและเชื่อมต่อกันตลอดเวลา พวกเขาคุ้นชินกับการหาข้อมูลเองและชอบการตัดสินใจที่ยืดหยุ่นมากกว่าระบบที่แข็งทื่อ เมื่อเข้ามาอยู่ในองค์กรที่ยังทำงานแบบ “บนลงล่าง” จึงเกิดการชนกันของความคิด รุ่นพี่อาจมองว่าน้องไม่เคารพกฎเกณฑ์ ขณะที่น้องกลับมองว่ากระบวนการเก่า ๆ ทำให้งานช้าเกินไป
อีกด้านหนึ่ง อย่าลืมว่า Gen Z หลายคนผ่านช่วงโควิดมาในวัยเรียน พวกเขาไม่ได้เจอสังคมในรูปแบบปกติมากนัก ทำให้บางทักษะอย่างการสื่อสารต่อหน้า การปรับตัวเข้าหากลุ่ม หรือการเจรจาอาจไม่แข็งแรงเท่าที่ควร เมื่อเริ่มทำงานจริง ๆ จึงดูเหมือน “เข้ากับทีมไม่ค่อยได้”
Gen Z ความคิด ที่แตกต่างคือโอกาส
แทนที่จะมองว่า “Gen Z ความคิด ไม่เหมือนใคร” เป็นปัญหา เราอาจลองมองกลับกันว่านี่คือโอกาส คนรุ่นนี้มีความเข้าใจดิจิทัลสูง รู้เทรนด์ใหม่ ๆ ไว และให้ความสำคัญกับความหมายของงาน ถ้าองค์กรเปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้เสนอความเห็นหรือทดลองวิธีใหม่ ๆ คุณค่าเหล่านี้จะช่วยพาองค์กรไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น
การทำ Team Building ที่ช่วยให้คนในทีมทำงานด้วยกันได้ดี ไม่ว่าจะเป็น Gen ไหนก็ตาม จึงเป็นสิ่งสำคัญขององค์กรในยุคนี้ เพื่อให้ Flow ในการมีประสิทธิภาพ และลงความขัดแย้ง
วิธีทำงานร่วมกับ Gen Z แบบไม่ต้องปวดหัว
สิ่งที่เราอยากแนะนำคือ ปรับโฟกัสจากการควบคุม ไปที่การร่วมมือ เช่น
- ตั้งเป้าหมายงานให้ชัด แต่เปิดให้เลือกวิธีทำได้เอง
- ใช้การ feedback แบบต่อเนื่อง แทนที่จะรอประเมินปลายปี
- สร้างพื้นที่ให้ถกเถียงได้บนข้อมูลจริง ไม่ใช่อารมณ์ส่วนตัว
- ให้โอกาสทำโปรเจกต์เล็กที่จบไว เพื่อสร้างความมั่นใจและประสบการณ์จริง
สิ่งที่องค์กรควรหยุดทำ
ด้วยต้นทุนเดิมที่ Gen Z มักจะรู้สึกแปลกแยกจากคนรุ่นเก่าอยู่แล้ว กิจกรรมสร้างทีมที่สนุกมากแต่ไม่โยงกับงานจริง หรือ Workshop ทฤษฎียาว ๆ ที่ไม่ได้แตะปัญหาที่เจอในแต่ละวัน สิ่งเหล่านี้ไม่ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานของทีม แถมทำให้คนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z รู้สึกว่า “เสียเวลา” มากกว่าจะได้อะไรกลับมา